วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เสือทัสมาเนีย

Tasmanian Tiger



เสือทัสมาเนีย (Tasmanian Tiger) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หมาป่าทัสมาเนีย หรือ (Tasmanian Wolf) ส่วนอีกชื่อหนึ่งนั้น ตามชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า Thylacine เสือตัวที่ว่านี้ทำให้โลกหันมาสนใจ เพราะเป็นสัตว์กินเนื้อที่หายากจนนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ ลงความเห็นว่าสูญพันธุ์หมดไปจากโลกนี้แล้ว แต่ก็มีข่าวคราวว่าพบเสือทัสมาเนียนี้กันบ่อยครั้ง ก็ไม่ทราบว่าจริงหรือเท็จ เพราะไม่มีภาพถ่ายที่ยืนยันการพบปะกับเสือที่ว่านี้ได้ (ใครจะไปคิดว่าจะเจอหรือพกกล้องติดตัวไปด้วยตลอดเวลา) แต่ก็มีหลักฐานมากมายว่ามีการพบเสือที่ว่านี้บ่อยครั้งขึ้น หลายคนภาวนาให้เป็นอย่างนั้น เมื่อ พ.ศ.2538 มีเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ของทัสมาเนียผู้หนึ่งพบร่องรอยของเสือชนิดนี้ ทางตะวันออกของทัสมาเนีย นับเป็นการค้นพบครั้งสำคัญก็ว่าได้




เสือตัวที่ว่านี้มีลักษณะคล้ายๆกับสุนัขในบ้านเรา แต่มีฟันหน้าที่แหลมคม นอกจากนั้นลำตัวและหางของเสือประเภทนี้มีลักษณะคล้ายๆกับจิงโจ้ บางครั้งมันยืนด้วยสองขาหลังเหมือนจิงโจ้ด้วย เสือทัสมาเนียที่ชาวออสเตเลียเคยเห็นเป็นขนปุยลายทางสีน้ำตาลอ่อน มีสีดำสลับที่สันหลังค่อนไปทางก้น




เล่ากันว่าเสือประเภทนี้โดยนิสัยไม่ค่อยวิ่ง เนื่องจากไม่ใช่สัตว์ประเภทวิ่งเร็วเหมือนกับสัตว์กินเนื้ออื่นๆ การจับเหยื่อของมันเป็นอาหาร ก็ไม่ต้องวิ่งไล่ล่าเหยื่อเหมือนเสืออื่นๆ แต่มันจะค่อยๆทำให้เหยื่อเหนื่อยหรืออ่อนล้า โดยการตามไปเรื่อยๆ ก่อนจะจับกินเป็นอาหาร โดยเสือทัสมาเนียอย่างที่ว่านี้จะชอบกินอวัยวะของเหยื่อสัตว์ต่างๆ ตั้งแต่สัตว์ใหญ่อย่าง วอลลาบี จิงโจ้ ไปจนถึงแบนดีคู้ต หนู และนก ของโปรดจากอวัยวะของสัตว์เหล่านั้นได้แก่ คอ จมูก ตัว และไต หลายคนสงสัยว่าเสือที่ว่าเห่าหอนอะไรบ้างหรือเปล่า นักสัตวศาสตร์ก็บอกว่ามันไม่ค่อยเห่าหอนเท่าไหร่นัก แต่ก็มีบ้างในบางครั้ง แต่ก็นานๆทีว่างั้นเหอะ

ลักษณะทางกายภาพของสัตว์ประเภทนี้ ว่ากันว่าเมื่อโตเต็มที่จะหนักประมาณ 35 กก. ลำตัวยาวประมาณเมตรครึ่ง อายุขัยของมันนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีตัวหนึ่งที่เคยอยู่ในสวนสัตว์ลอนดอนมีอายุถึง 10 ปี ส่วนตัวที่อยู่ทัสมาเนียมีอายุถึง 12 ปี มีการพบเห็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของเสือทัสมาเนียครั้งสุดท้าย ในเวสต์ออสเตเลีย บนแผ่นดินใหญ่ แต่พบเป็นฟอสซิล หรือซากศพที่ติดอยู่ในหินอายุประมาณ 3,100 ปี




สำหรับสาเหตุที่ทำให้เสือทัสมาเนียสูญพันธุ์อาจมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ประการที่เห็นชัดๆได้แก่การที่ผู้คนไม่ใส่ใจจะอนุรักษ์สัตว์ประเภทนี้ไว้ก็ได้ ส่วนสาเหตุอื่นๆนั้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าอาจเกิดมาจากโรคระบาด หรือเชื้อโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้มันเสียชีวิต บางส่วนก็เข้าใจว่าอาจเป็นเพราะถูกล่า เนื่องจากเสือเหล่านี้เข้าไปกัดกินแกะของชาวไร่ ชาวนา ปัจจุบันถ้าอยากเห็นหนังเสือและเสือเป็นตัวๆ (ตายแล้ว) ก็เข้าไปดูได้ที่ Tasmanian Museum and Art Gallery ที่ Hobart เมืองหลวงของรัฐซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ที่นั่นท่านจะเห็นสัตว์พื้นเมืองต่างๆของออสเตเลียเพียบ


ดั้งเดิมจริงๆเสือชนิดนี้แพร่พันธุ์ทั่วไปในนิวกีนีและทัสมาเนียเมื่อ 4,000 ปีก่อน เสือที่ว่านี้ค่อยๆหายไปจากนิวกีนีและออสเตเลีย พร้อมๆกับการแพร่พันธุ์ของสุนัขดิงโก้ และหมาป่า แต่โชคดีที่หมาที่ว่านี้ไม่แพร่พันธุ์เข้ามาทัสมาเนีย เพราะทัสมาเนียเป็นเกาะมีน้ำคั่นกลาง หมาดิงโก้คงว่ายน้ำข้ามมาไม่ได้ เพราะช่องแคบบาสส์ (Bass Strait) นั้นกว้างถึง 200 กม. เลยทำให้เสือยืดอายุมาได้นานกว่าที่อื่นๆในออสเตเลีย

อีกกระแสหนึ่งบอกว่า เมื่อชาวยุโรปเข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่ๆนั้น เสือทัสมาเนียก็เริ่มหดหายไป เนื่องจากพวกที่เข้ามาใหม่นั้นนำแกะเข้ามาเลี้ยง เมื่อปี พ.ศ.2376 โดยบริษัท Van Diemens Land Co. ให้ค่าหัวในการล่าเสือทัสมาเนีย ต่อมารัฐบาลสั่งห้ามการล่าดังกล่าวเสีย แต่กว่าจะหยุดได้ก็ทำให้เสือดังกล่าวหายากมาก ตามบันทึกบอกว่าเสือทัสมาเนียตัวสุดท้ายของโลกตายในสวนสัตว์โฮบาร์ตทัสมาเนียเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ.2479 และในปีนี้เองรัฐบาลประกาศการสูญพันธุ์อย่างเป็นทางการของเสือชนิดนี้


เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวครึกโครมออกไปทั่วโลกว่า นักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีชุบชีวิตเสือดังกล่าวได้แล้วโดย ดร.ไมค์ อาร์เชอร์ (Mike Archer) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ออสเตเลียน ออกมาแถลงว่ามีแผนที่จะทำโคลนนิ่งเสือชนิดนี้ โดยนำเอาเซลล์ของเสือที่ดองแอลกอฮอล์ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2409 มาสกัด DNA นักวิทยาศาสตร์ท่านนี้ยืนยันว่าทำได้แน่ๆ ในเร็วๆนี้...

นางสาวบุณสิตา ศรีกิจ
115510503436-8
การจัดการทรัพยากรมนุษย์
section 13

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ปลวก


ปลวก


ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับปลวก

ชนิดและประเภทของปลวก

การจำแนก ปลวก อย่างกว้างๆ แบ่งออกเป็น 2 พวกใหญ่ๆ คือ ปลวกที่อาศัยอยู่ในดิน และ ปลวกที่ไม่อาศัยอยู่ในดิน ปลวกอาศัยอยู่ในดิน จำแนกได้เป็น 3 พวก คือ 

ปลวก ใต้ดิน (Subterranean termites) พวกนี้จะ อาศัยอยู่ในดินเกือบตลอดอายุของมันแม้ว่าจะออกจากผิวดินไปแล้ว ก็ยังมีการติดต่อกับพื้นดินอยู่ โดยการทำอุโมงค์ทางเดินด้วยดินไปสู่แหล่งอาหารต่าง ๆ ที่อยู่เหนือดิน นอกจากนี้อุโมงค์ทางเดินยังเป็นเครื่องป้องกันอันตรายจากศัตรู เช่น มด 

ปลวก ที่อยู่ตามจอมปลวก (Mound-building termites)เป็น ปลวกที่สร้างรังหรืออาณาจักรขนาดใหญ่ อยู่บนพื้นดินโดยใช้เม็ดดินเล็ก ๆ สร้างขึ้นเป็นเนินสูงใหญ่ที่เรียกว่า จอมปลวก จะพบเห็นทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเซีย อาฟริกา และออสเตรเลีย 

ปลวก ที่อยู่ตามรังขนาดเล็ก (Carton-nest-building termites) รังของ ปลวก ชนิดนี้ เกิดจากมูลของ ปลวก ผสมกับเศษไม้เล็กๆ และสร้างเป็นรังที่มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไป อาจจะอยู่ในดิน บนพื้นดินหรือเหนือพื้นดิน เช่น ตามต้นไม้ เสาไฟ หรืออาคารบ้านเรือน 

ปลวก ไม้แห้ง (Dry-wood termites) เป็นพวกที่มี อาณาจักรหรือรังเล็กกว่า ปลวก ใต้ดิน อาศัยอยู่ในเนื้อไม้ และจะไม่ลงไปในดิน ปลวก ชนิดนี้ต้องการความชื้นในไม้แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเป็นพวกที่ทำความเสียหายร้ายแรงต่ออาคารบ้านเรือนและเครื่องเฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ 

ปลวก ไม้ชื้น (Damp-wood termites) อาศัยอยู่ใน เนื้อไม้ที่มีความชื้นสูง เช่น เปลือกไม้ ไม้ซุง หรือไม้ที่ผุแล้ว ห้องที่มีความชื้นและความเย็น นับว่า เป็นสถานที่เหมาะสม สำหรับ ปลวก ประเภทนี้อาศัยอยู่ ตามปกติแล้ว เป็น ปลวก ที่ไม่มีอันตรายต่ออาคารบ้านเรือนมากนัก 

 ชีวิตและความเป็นอยู่ของปลวก

ปลวก เป็นแมลงที่อยู่เป็นหมุ่สังคมประกอบด้วยวรรณะต่างๆ รวม 3 วรรณะ และมีหน้าที่แตกต่างกันไป

ปลวก สืบพันธุ์
คือปลวกตัวผู้และตัวเมีย มีปีกและเพศดังแมลงอื่นๆ ทั่วไป ตามปกติ ในรังหรือ อาณาจักรจะพบปลวกคู่นี้ทำหน้าที่ผสมพันธุ์และสืบพันธุ์ ตัวผู้เรียกว่าราชาปลวก และตัวเมียเรีย กว่า ราชินีปลวก ออกไข่เกิดเป็น ปลวก ชนิดต่างๆ ในรัง นอกจากนี้ ปลวก สืบพันธุ์ยังมีหน้าที่ กระจาย พันธุ์และสร้างอาณาจักรใหม่เกิดขึ้นอีกด้วย ปลวกชนิดนี้มีปีกทั้งตัวผู้และตัวเมียเรียกว่าแมลงเม่า เมื่อจับคู่ผสมพันธุ์แล้วจะสลัดปีก และเลือกสถานที่เหมาะสมเพื่อสร้างรัง และเกิดเป็นอาณาจักร ใหม่ต่อไป 

ปลวก งาน
เป็น ปลวก ตัวเล็กไม่มีปีก ไม่มีเพศ และไม่มีตา อาศัยอยู่ในดินหรือเนื้อไม้ ที่มันกัด และทำลาย มีหน้าที่ก่อสร้าง หาอาหารมาเลี้ยงปลวกวรรณะอื่นๆ ปลวกชนิดนี้จะทำงาน ทุกอย่าง ภายในรัง

ปลวก ทหาร
เป็น ปลวก ตัวเล็กแต่มีหัวโต และขากรรไกรขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการต่อสู้ ไม่มีปีก ไม่มีตา และไม่มีเพศ ปลวกชนิดนี้มีหน้าที่ปกป้องอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับรัง ศัตรูสำคัญของมัน คือ มด

การสร้างอาณาจักร


การสร้างรังหรืออาณาจักรของปลวกแต่ละชนิด จะมีแบบแผนที่แน่นอน แต่แตกต่างตามพันธุ์ และภูมิอากาศ สภาพแวดล้อม

 การเกิดอาณาจักร
แมลงเม่ามักจะออกมาให้เราได้พบเห็นในบางโอกาสของปี ซึ่งเป็นช่วง ระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อตัวผู้และตัวเมียจับคู่ผสมพันธุ์ ชนิดปลวกไม้แห้งก็จะหารอยแตกแยกของ เนื้อไม้ เพื่อสร้างรังใหม่ ชนิดปลวกใต้ดินก็จะหาแหล่งดินในบริเวณใกล้ ๆ แหล่งอาหาร เช่น บริเวณเศษไม้หรือรากไม้ในดินเพื่อสร้างรังใหม่

การขยายอาณาจักร
เมื่อถึงฤดูกาลที่เหมาะสม แมลงเม่า จะบินออกจากรัง ภูมิประเทศ สิ่งแวดล้อมและเผ่าพันธุ์ จะทำให้แมลงเม่าออกจากรักต่างวาระกัน ในภูมิอากาศที่ร้อน แมลงเม่า จะออกจากรังช่วงเวลาหลังฤดูฝน แมลงเม่าเหล่านี้จะบินเข้าอาคารเพื่อรับความอบอุ่นจากแสงไฟ หรือแสงอาทิตย์ และทำความรำคาญให้กับเรา แมลงเม่าแต่ละคู่เมื่อผสมพันธุ์แล้วจะเลือกสถานที่ สร้างรังใหม่ และภายใน 2-3 วันจะเริ่มวงไข่ครั้งแรกๆ จะมีไข่ไม่กี่ฟองแต่ต่อไปจะเพิ่มจำนวนไข่ มาก ขึ้นเรื่อยๆ ตลอดอายุการเจริญเติบโต ของมันไข่จะฟักออกเป็นตัวอ่อนภายใน 30-50 วันและ ตัวอ่อนจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนมากจะเป็นปลวกที่อยู่ในวรรณะ ปลวกทหาร และ ปลวกงาน แมลงเม่า คู่แรกที่สร้างรังจะเจริญเติบโตเป็นราชาปลวก และ ราชินีปลวก มีอายุยืนยาว และมีจำนวนไข่มากกว่า 30,000 ฟองต่อวัน จำนวนประชากรของปลวกในอาณาจักรหนึ่งๆ มี มาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ และแหล่งอาหาร

ปลวกชนิดต่าง ๆ ในอาณาจักรปลวกใต้ดิน



แมลงเม่า
ปลวกสืบพันธุ์ (แมลงเม่าสลัดปีก)
ตัวอ่อนระยะแรก
ตัวอ่อนระยะกลาง
ปลวกสืบพันธุ์ระยะเจริญพันธุ์
ปลวกงาน
ปลวกทหาร
ราชินีปลวก
ปลวกสืบพันธุ์สำรองปีกสั้น และไม่มีปีก
ปลวกสืบพันธุ์สำรองปีกสั้น และไม่มีปีก



การอาศัยอยู่ในระบบสังคม ขนาดของอาณาจักร จะขยายใหญ่ได้ ด้วยความสมบูรณ์ของ แหล่งอาหาร
ปลวก แต่ละชนิดจะมีหน้าที่เฉพาะ และเกี่ยวโยงเป็นระบบการอยู่ร่วม (ระบบสังคม) การเริ่ม อาณาจักรเกิดจากราชาปลวกและราชินีปลวก 1 คู่ ทำการผสมพันธุ์ และเพิ่มประชากร มากขึ้นๆ จากไข่ จะกลายเป็นปลวกตัวอ่อน และเจริญเติบโตเป็นปลวกชนิดต่าง ๆ เช่น ปลวกสืบพันธ์สำรอง, ปลวกทหาร, ปลวกงาน และแมลงเม่าปลวกสืบพันธุ์สำรอง จะทำหน้าที่ออกไข่เพิ่มประชากรในกรณีที่ ราชาปลวก หรือราชินีปลวก ได้ตาย ปลวกงาน ทำหน้าที่ ดูแลสร้างหรือซ่อมแซมรัง, หาอาหาร เพื่อเลี้ยงปลวกชนิดอื่น และทำงาน ทุกชนิดภายในรังแมลงเม่า คือ ปลวกสืบพันธุ์ที่อยู่ในรัง เมื่อโตเต็มที่จะบินออกนอกรังเพื่อสร้างอาณาจักรใหม่
  
ความต้องการของปลวก

เพราะปลวกต้องหาอาหารจึงเกิดการทำลาย และ ต้องการความชื้น ของดินจึงเกิดวิธีกำจัด โดยใช้สารเคมี  

อาหาร อาหารของปลวกส่วนมากคือ เนื้อไม้ หรือสารที่มีเซลลูโลส เศษไม้ จะถูกย่อยโดยเชื้อ โปรโตซัว ซึ่งมีอยู่ในตัวของมัน 
ความชื้น ปลวกและแมลง ที่ต้องอาศัยความชื้น เพื่อให้เกิดน้ำในลำตัวตลอด เวลาปลวกไม้แห้ง จะปิดทาง เข้าออกของรังอย่างมิดชิดใน ขณะที่อากาศภายนอกมีความชื้นต่ำ ปลวกใต้ดินจะปรับ อากาศ ในรังหรือทางเดินให้เหมาะสม โดยทำรังในดินที่มีความชื้น และมันจะเดินกลับเข้ารัง วันละ หลายๆ เที่ยว ในพื้นที่ชื้น และนี่คือวิธีที่ปลวก นำความชื้นเข้าสู่รังได้

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการทำลายปลวก

ทุกที่ ที่เราพบว่ามีปลวกใต้ดินอาศัยอยู่ ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขต มรสุม ซึ่งเป็นเขตที่เหมาะสม สำหรับปลวกใต้ดินจะอาศัยอยู่เป็นอย่างมาก และเราพบว่าปัญหาปลวกนี้ จะมีอยู่ในทุกภาค ของ ประเทศ
ปลวก จะมีวิธีทำลายสิ่งของในลักษณะต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับชนิดโครงสร้าง ของสิ่งของ ในกรณี ที่เป็นสิ่งของชนิดเดียวกัน ปลวกจะทำลายของนั้น ในลักษณะเหมือนๆ กัน มันจะสร้าง อุโมงค์ดิน ไปตามทิศทางต่างๆ จนพบอาหาร บางครั้งอาจมีระยะไกลมาก เมื่อมันไปพบกับ สิ่งกีดขวางมัน จะหาช่องทางแทรกจน พบอาหาร ได้ เมื่อมันเข้าสู่ในอาคาร สิ่งของต่าง ๆ ที่ทำจาก ไม้ คือ อาหารของมัน พื้นไม้ วงกบประตู หน้าต่าง ฝา และผ้าคือบริเวณที่เราอาจพบปลวกได้



นางสาวบุณสิตา ศรีกิจ
115510503436-8
SEC13